วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สุดท้าย ท้ายสุด

บทความสุดท้ายนี้ยาวหน่อยนะ
แต่ก็ท้ายสุดแล้วแหละ


พี่ก็อยากบอกน้องทั้งสองคนในฐานนะรุ่นพี่รหัส 42….. แล้วกันนะ (แก่โคตร ไม่อยากบอกเลยอะ)


พี่เข้าใจนะครับว่าวัยรุ่นคือวัยสนุก อยากลอง ทำอะไร แบบนั้นแบบนี้บ้าง ซึ่งเราก็คิดว่าแค่นี้มันก็โอแล้ว หรือว่าไม่เป็นไร อันนี้ก็ตามแต่คนจะคิดนะครับ แต่สำหรับพี่ อะไรที่มันไม่ดี หรือไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปลองมันหรอกนะ เพราะมีอะไรอีกหลายอย่างบนโลกใบนี้ที่เรายังไม่ได้ลองอีกเยอะ และเวลามันย้อนกลับไปแก้ไม่ได้

คือพี่พอจะผ่านอะไรมาเยอะแล้ว โดนไล่ยิง (ยิงกันจริงๆนะครับไม่ใช่แค่เอาปืนมาถือเล่น) ไล่ตีกันไม้ มีดอะไร แบบนี้ 9ล9 ….. มันไม่สนุกเลย ซึ่งพี่และเพื่อนๆก็ไม่เคยไปยุ่งเหมือนกัน แต่บางทีมัน “พลาด”จนได้ ที่ทำให้ต้องไปเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ คือเรื่องแบบนี้พี่เจอมาเป็นสิบปีแล้วครับ มันไม่ใช่เรื่องน่าเอามาคุยกันหรอกนะ และก็ไม่ใช่เรื่องเท่ห์หรือน่าจำเลย แต่ที่อยากจะบอกก็ระวังกันนะ เพราะเราสองคนเป็นผู้หญิง ก็เป็น"หวง" เท่านั้นเอง โดยเฉพาะน้องกิ๊บขาโหด (แซวนะอันนี้อย่าไปคิดไรมาก) ดูแลตัวเองได้ดีแล้วครับ

เพราะเรื่องบางเรื่องผลมันแย่จนเราแทบทนไม่ไหวเลยนะ

ซึ่งพี่กำลังจะบอกว่าปัญหาที่เกิดบางอย่างมันผลออกมาแบบ ออกหัวก็เจ็บ ออกก้อยก็เจ็บ ตอนนั้นแหละที่มันทรมานอย่าบอกใคร บางเรื่องเวลามันก็ไม่อาจจะทำให้มันดีขึ้นได้


และก็ไอ้เรื่องแบบพี่นี้ เราหนีไม่พ้นหรอกนะ ธรรมชาติสร้างให้ผู้หญิงกับผู้ชายเกิดมาคู่กัน
ไม่มีใครเค้าอยากเจอเรื่องร้ายๆแย่ๆหรอก แต่บางทีมันก็ต้องเจอแบบเลี่ยงไม่ได้จริง
แต่ก็คิดให้มันเป็นอุบัติเหตุชีวิตแล้วกันนะ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
อะไรที่มันดีๆ ก็เก็บจำมันไว้ ไอ้ที่มันไม่ดีก็ลืมๆมันไปซะ จะได้มีความสุข

และอีกอย่าง พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท เค้าก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาหรอกนะครับ

ส่วนเรื่องที่คุยกับกิ๊บไว้ ว่าจะไม่ยุ่งอะไรกับปรางอีก ก็ตามนั้นนะ แต่จะขนาดว่าไม่ให้มองกันแบบ”คนปกติ”เค้ามองกันก็เกินไป พี่คงทำไม่ได้หรอกนะ และน้องก็ไม่ต้องคิดมากเองเลยนะว่าพี่ไปนั่งรอ นั่งดู หรือทำอะไรอีก เจอกันร้านข้าวอะไรก็ไม่ต้องหลบกัน ไม่ต้องหนีกันแบบนั้นอีกนะ บอกตรงๆเลยโคตรเสียใจเลย




ก็อ่านกันแค่ ปรางกับกิ๊บก็พอแล้วกันพี่ถือว่ารับปากนะ เพราะเดี๋ยวพี่ก็ลบทิ้งแล้ว

เสียดายจริงๆที่พี่ทำได้แค่นี้ ได้คุยกับปราง เหมือนที่ได้คุยกับกิ๊บบ้างก็ดีดิ
ไม่มีโอกาสได้ร้องเพลงชาติ หรือ ฟังเรื่องตลกบ้าง 5555555
และที่สำคัญคงไม่ได้เห็น “รอยยิ้ม” ของน้องอีก





คำสุดท้่าย…….. เสียใจ……….




มีอะไรก็ mail นี้แล้วกัน morning.smiling@gmail.com

น้องกิ๊บผู้แสนดี

วันนี้แหละที่น้องกิ๊บผู้กล้าเดินมาคุยด้วย
ทำให้เรื่องมันจบลงเร็วขึ้น แบบที่พี่ตั้งใจจะให้มันจบแบบนี้ไปเมื่อก่อนปิดเทอมแล้ว ขอบคุณมาก
แต่กิ๊บไม่พูดพี่ก็ต้องทำให้มันจบแน่นอน จริงๆ
และมันก็ทำให้ผมสบายใจมากขึ้นด้วย ถึงแม้จะไม่ได้บอกสิ่งที่อยากบอกกับน้องถั่วงอกเค้าตรงๆ
คือ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว

ก็ดีใจด้วยนะที่น้องถั่วงอกมีเพื่อนดีๆ แบบ กิ๊บ
ก็ " รักและดูแลกันตลอดไปนะ"


วันนี้ก็นั่งคุยกับน้องกิ๊บสุดเท่ห์ประมาณชั่วโมงได้
ก็พอรู้อะไรเกี่ยวกับน้องถั่วงอก(น้องกิ๊บขาโหดด้วย)มาอีกนิดนีงแล้ว
ประมาณว่า ชื่อ ปีอะไร เอกอะไร แล้วก็


เวลาส่วนตัวที่เค้าอยู่เป็นงัยบ้างนิดๆหน่อยๆ
ฟังกิ๊บเล่าแล้วรู้สึกว่าน่า่รักดีนะ
แล้วก็อยากเห็น อยากสัมผัส อยากรู้เรือ่งอะไรที่คุยกันแล้วขำๆ หัวเราะกันถึงตี5
อยากเห็นเวลาที่เล่นอะไรกันแบบเด็กๆ อะไรเงี่ย น่าจะน่ารักดีนะ
แซวหน่อยนะ ก็อย่าร้องเพลงชาติดังนักนะ เดี๋ยวข้างห้องเค้าตกกะใจเอา
รักชาติจริงๆ :) แต่คงสู้รัก โคราชไ่ม่ได้หรอก (เคยไปเหมือนกัน เมืองเค้าเจริญมากจริงๆ)


แต่คงได้แค่คิดแล้วแหละ


และก็เสียดายนะที่น้องไม่ได้รู้จักพี่มากกว่านี้ ไม่งั้นอาจจะรู้สึกดีกว่านี้บ้างก็ได้


ก็ขอบคุณน้องกิ๊บมากสำหรับเวลาวันนี้
และก็อยากบอก น้องถั่วงอก เห้ย.. ไม่ใช่ น้องปรางว่า "ยังจำยิ้มครั้งแรกที่ยิ้มให้กันได้อยู่เสมอ ขอบคุณมากครับ"

" ผ่านวันนี้ไปน้องปรางสบายใจได้แล้วนะคะ ไม่ต้องกลัว เครียด เกียจ โกรธ กันอีก"





ปล. มีอะไรให้ช่วยบอกกันได้ ยกเว้นยืมตังค์นะครับ

เปิดเทอม 2

ก็เป็นไปอย่างที่ น้องกิ๊บรู้แล้วครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง


คือความพยายามตอนนี้ก็มีเพียงขอคุยด้วยสักครั้งเพื่อ "่ขอโทษ" เท่านั้นจริงๆ

ปิดเทอม

ก่อนปิดเทอมก็ทำ note แบบยาวเลยทีนี้ไป print เลยดีกว่าครับ
เขียนมือเองลบไปลบมาใช้คอมสะดวกกว่า ก็จะสารภาพกับน้องเค้าเลยครับ
ถึงจะดูโบราณไปหน่อยแต่ผมก็ต้องทำแล้ว เพราะผมไม่อยากบ่อยให้มันดูเครียดแบบนี้
ก่อนหน้านี้ก็พยายามจะให้เจอตัวนะ แต่ไม่ค่ีอยเจอกันเลยจริงๆ บางทีเจอน้องเค้าก็ต้องรีบไปเรียน
หรือดูหน้าน้องแล้วดูเครียด ผมเองก็ไม่อยากไปรบกวนเค้า แต่นานเข้าก็ไม่ไหวก็ต้องเลือกวิธีโบราณนี้แหละ

ใจความสำคัญที่ผมอยาก ถ่ายทอด คือ
ผมชอบน้องถั่วงอก
ผมอยากขอโทษเค้ามากๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ทำให้เค้ารู้สึกอะไรต่างๆที่ไม่ดี
ผมเสียใจกับการกระทำของผมมาก



และสิ่งที่ผมหวังตอนนี้คือ ขอแค่ความเป็นเพือ่น พื่ น้อง หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ต้องหลบหน้ากันแบบนี้
แต่ผมดูสถานะการณ์แล้ว แค่นี้ก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว


ปิดเทอมยี่สิบกว่าวันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกไม่ดีเลย



มันเร็วมาก

ก็คิดอะไรไม่ออก เอาละ เขียน note บอกก่อนแล้วกัน
ก็บอกว่า ...... ต่างๆนานา น่าจะซัก 3 ครั้งได้


แต่ผลออกมาดูไม่ได้ดีแล้ว เพราะผมรู้สึกได้ว่าน้องเค้าเริ่มดูหลบๆหน้าๆแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเองเริ่มกลับมาคิดใหม่ แล้วว่าเราต้องทำอะไร
และทำได้แค่ไหน

ไอ้ตอนนี้แหละคิดไปต่างๆนานาเลย ไม่รู้อารมณ์ไหนแล้วเนี่ย
พอหลายครั้งเข้า เริ่มไม่ค่อยดีและ

ก็คิดว่าต้องหาโอกาสคุย ก็รอแล้วรออีก หลายสัปดาห์มากแต่ก็ไม่มีจังหวะซักที
ชื่อก็ไม่รู้จัก ห้องก็ไม่รู้ เบอร์ก็ไม่มี


ต้องบอกผ่านตรงนี้เลยจริงๆนะ พี่ไม่เคยเดินตามน้องหรืออะไรก็แล้วแต่ที่พี่ต้องเดินเกินชั้น 2 ที่พี่อยู่เลย แม้แต่ครั้งเดียวจริงๆครับ พี่กล้าทำกล้ารับ ชอบก็บอกชอบ เกลียดก็บอกเกลียด


ที่พี่รู้ห้องน้องได้ก็ก่อนวันสุดท้ายที่น้องจะกลับบ้านตอนปิดเทอม 1
คือ น้องถั่วงอกลงมาซักผ้า แล้วเค้าก็เดินขึ้นบันไดไป ผมก็อยู่หน้าห้องผมแหละ
ผมอยู่ชั้นสอง ก็ฟังเสียงเท้าและก็ลองกะดูโดยประมาณ ฟังจากเสียงปิดประตู และเวลาที่ใช้ในการเดิน
ก็พอเดาได้แล้วว่า ต้องอยู่ชั้น 4 หรือ 5 จากนั้นผมก็เดินดูว่าห้องไหนตากผ้า มันเลยง่ายมากขึ้น
ว่ามีแค่สองห้องที่ตากผ้าไว้ที่ระเบียงห้องคือ 4xx กับ ห้อง 4xx
พอเหลือสองห้องก็สบาย ก็ดูต่อว่าตอนรถน้องถั่วงอกอยู่แล้วไฟห้องไหนเปิด แค่นี้ก็น่าจะพอเดาได้แล้ว
แต่บอกตรงๆว่า ก็ไม่ได้มั่นใจ 100 % หรอกครับว่าห้องนี้)

ยิ้มที่สอง

อันนี้วันต่อมาเลยครับ เจอกันที่จอดรถด้านล่าง
ก็ยิ้มทักทายกันเหมือนเดิม ไม่ได้คุยอะไรเลย
คราวก่อนเค้ายิ้มมาผมยังไม่หาย.... เลย เจอคราวนี้เข้าไปอีก
แถบละลาย

แต่ดูจากการวางตัว การยิ้มทักทาย และก็อะไรอีกนิดหน่อย
ก็ทำให้ผมเดาได้เลยว่า เค้าเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมากๆแน่นอน น่ารัก
สำรวมกิริยาท่าทาง และที่สำคัญดูน่าจะยังไม่มีแฟน (มั้ง อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมคิดไปเอง)


ไอ้ผมเองก็ไม่มีปัญญาอะไรแล้วครับ สับสน งง ตัวเองไปหมด เริ่มงง
ว่าต้องทำอย่างไรต่อดี ถ้าทำอะไรไปแล้วน้องเค้ารู้ที่หลังว่าผมมีแฟนแล้วจะรู้สึกกันอย่างไร

ไม่อยากหรอกตัวเอง ไม่อยากโกหกคนอื่น
ทำอะไรก็ไม่ดี และก็ไม่ควรทำ กลัวแฟนเสียใจ
สรุป ตอนนั้นเริ่มสับสนตัวเอง คิดไม่ออกแล้วจะทำไงดี ?????

"ยิ้มแรก" กับ มะม่วงแช่บ๊วย

หลังจากที่ผมเจอเค้าล้างรถวันนั้นก็อีกสัก 4 -5 วันได้ก็ได้เจอเค้าอีก
(ใกล้กันนิดเดียวแต่นานมากกว่าจะเจอกัน )

ตอนนั้นประมาณทุ่มกว่า ผมก็ไปซื้อมะม่วงแช่บ๊วยหน้าโรงบาลมากิน
และผมก็ได้เจอน้องแหละครับ ก็คิดอยู่เอางัยดีวะเนี่ย ตอนแรกเห็นน้องเค้าแล้ว
แต่ทำเป็นไม่เห็นก่อน คิดอะไรไม่ออก ทำงัยดีวะเนี่ย
น้องเค้าก็มาซื้อของกับเพื่อนอีก 3 คน
น้องก็ซื้อเสร็จแล้วกำลังจะไปแล้ว เอาวะ ยิ้มทักทายกันซะหน่อย น่าจะดีกว่านิ่งๆ

ก็ไม่รู้นะใครยิ้มให้ใครก่อนแต่ผมก็ยิ้มทักทาย แต่ไม่ได้พูดอะไรกันนะ
น้องก็ยิ้มกลับมาเช่นกัน "ยิ้มน่ารักมากๆ " ทำผม...ไปพักนึงเลย
(คือผมไม่เคยเห็นยิ้มแบบนี้มาหลายปีมากๆแล้วครับ)

ปล. ที่น้องเค้าชื่อปราง อาจจะเพราะ เค้ายิ้มน่ารักมาก ที่บ้้านเลยตั้งชื่อนี้
เพราะ ปราง แปลว่า "ยิ้ม" อันนี้ก็เป็นอีกอย่างที่ผมคิดไปเอง
น้องเค้าอาจจะชื่อ "ปรางค์ "ที่แปลว่า วัตถุก่อสร้างคล้ายเจดีย์ก็ได้